เชลซี คว้าแชมป์ เดอะ แคปปิตอล วัน คัพ
โชเซ่ มูรินโญ่รู้สึกยินดีหลังจากที่เห็นทีมของเขาคว้าแชมป์ เดอะ แคปปิตอล วัน คัพ จากการเอาชนะท็อตแน่มได้ด้วยสกอร์ 2-0 ที่เวมบลีย์ เป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของเชลซี
จอห์น เทอร์รี่ เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้ ทำประตูแรกให้กับเชลซีโดยการยิงซ้ำจากลูกเตะมุมที่สเปอร์สเคลียร์ไม่ขาดเข้าประตูไป
จริงๆ แล้วทั้งสองทีมต่างก็เล่นกันอย่างสูสีมาตลอด จนกระทั่งหลังจากที่เริ่มครึ่งหลังไป 11 นาที เชลซีก็มาทำประตูที่สองได้สำเร็จ จากดิเอโก้ คอสต้า เมื่อฟาเบรกัสจ่ายบอลให้เขาลากเข้าไปยิงจากมุมอับ บอลแฉลบตัวไคล์ วอล์คเกอร์ เข้าประตูไป
เอเด็น อาซาร์เกือบจะทำประตูที่สามได้สำเร็จ เมื่อเขาปั่นบอลไปที่ประตู แต่บอลเฉียดเสาออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย
เมื่อพูดคยกับสื่อหลังจบเกม มูรินโญ่เริ่มต้นด้วยการชมเชยคู่แข่งของเรา
“ก่อนอื่นเลย ผมอยากจะบอกจากหัวใจที่มีความสุขของผมว่า เมาริชิโอ้ ปอเช็ตติโน่, ทีมงานของเขา และทีมท็อตแน่มเล่นได้ดีมาก” บอสของเดอะบลูส์กล่าว “ผมพบกับเขาที่สเปนเมื่อหลายปีก่อนในตอนที่เขายังเป็นผู้จัดการทีมหนุ่มอยู่ ในตอนที่ผมอยู่ที่รีล มาดริด เขามาที่อังกฤษและพิสูจน์ตัวเองได้ ไม่มีใครให้อะไรเขาฟรีๆ เลย”
“เขาทำได้ดีที่เซาท์แธมป์ตัน และก้าวเข้ามาอยู่ในสโมสรที่ใหญ่อย่างท็อตแน่ม สร้างทีมที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาได้ พวกเขาทำให้เราพบกับเกมที่ยากลำบาก พวกเขาทำให้เราต้องคิดกลยุทธ์ให้ดี”
“อย่างที่สองที่ผมอยากจะบอกคือตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงแค่จอห์น เทอร์รี่, อัซปิลิเกวต้า หรือ คอสต้า ผมคิดถึงกูร์กตัวส์ด้วย หากเราไม่มีเขา เราก็อาจจะไม่ได้เข้ามาในรอบชิงชนะเลิศนี้ เราอาจจะแพ้ลิเวอร์พูลไปแล้ว ผมคิดถึงมาติช, ฟิลิเป้ หลุยส์ และออสการ์ พวกเขาเหล่านี้ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ลงเล่นมากนัก ผมคิดถึงชวาร์เซอร์, ซาลาห์, เชือร์เล่ ทุกๆ คนที่เริ่มต้นฤดูกาลมาด้วยกัน พวกเขาต่างก็เป็นแชมป์ด้วยกันทั้งนั้น”
มูรินโญ่วิเคราะห์การแข่งขันนี้
“เราเล่นเพื่อคว้าแชมป์ สเปอร์สเองก็เช่นกัน และเรามีกลยุทธ์ที่ดี เราเล่นอย่างสบายๆ และค้นพบแนวทางที่จะรักษาความมั่นคง หลังจากที่มาติชติดโทษแบน ผมมีความสุขมาก เพราะทีมที่ไม่ได้มีอายุมากนัก ทีมที่มีนักเตะรุ่นเยาว์มากมาย ปรับตัวได้ดี เราเปลี่ยนตำแหน่งตรงมิดฟิลด์ เกมที่เราเล่นนี้เป็นหนึ่งในทีมที่มีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก ดังนั้นผมมีความสุขมาก”
มูรินโญ่พูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของชัยชนะ สำหรับทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องกับสโมสร
“สำหรับผมแล้วมันสำคัญมากที่ได้รู้สึกเหมือนกับได้เป็นเด็กอีกครั้ง ก่อนเกมจะเริ่ม ผมมีความรู้สึกเหมือนกับเกมแรกที่ผมเข้ารอบชิงชนะเลิศ มันสำคัญมากนะที่ได้รู้สึกเหมือนเดิมอีกครั้ง ผมรู้ว่าผมมีทีมที่ต้องสร้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ แต่มันยากสำหรับผมในการที่จะอยู่โดยไม่ได้คว้าแชมป์อะไรเลย แม้ว่าเราจะทำงานอย่างมั่นคงมาตลอดหลายปี มันสำคัญทั้งกับผม กับเด็กๆ และกับสโมสรที่ได้ถ้วยมาครองอีกใบ”
“นี่เป็นถ้วยแรกของนักเตะชุดปัจจุบัน เรามีเช็ก, เทอร์รี่ และดร็อกบา แต่หลังจากนั้นทุกคนก็เป็นนักเตะใหม่ทั้งนั้น ดังนั้นสำหรับทีมแล้ว มันสำคัญมาก”
มูรินโญ่กล่าวชมเชยเคิร์ท ซูม่า ที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับในเกมนี้
“มันยากมากสำหรับกองหลังที่ต้องเล่นตำแหน่งนี้ พวกเขารู้สึกกดดัน เราต้องคิดให้เร็วกว่าเดิม และตัดสินใจให้เร็วขึ้น แต่มาร์กเซย เดอไซญี่คนใหม่ของเราทำงานอย่างนักในสัปดาห์นี้ และเด็กคนนี้ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับเรา”
“จากการที่มีเพียง ฟาเบรกัส และ รามิเรสเท่านั้นในเกมที่พบกับทีมอย่างสเปอร์ส เราจะต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากแน่นอน เพราะพวกเขาเคลื่อนบอลได้รวดเร็วมาก จากนาทีแรกเราดันเกมขึ้นสูง และเราไม่ปล่อยเกมให้เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ”
มูรินโญ่อธิบายว่าทำไมเพตเตอร์ เช็ก ถึงลงเฝ้าเสาแทนธิโบต์ กูร์กตัวส์
“ผมเลือกเขาเพราะนี่เป็นการแข่งขันของเขา เราตัดสินใจให้กูร์กตัวส์เป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของเรา เพราะเขายังหนุ่มอยู่ และเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากในวัยเท่านี้ เราบอกว่านี่เป็นการแข่งขันของเพตเตอร์ แต่เมื่อผมส่งเขาลงเล่นในแชมป์เปี้ยนส์ ลีก หรือ พรีเมียร์ลีก ผมก็เปิดโอกาสให้ตัวเองสามารถส่งกูร์กตัวส์ลงในการแข่งขันรายการนี้ ผมต้องการให้เขาลงเล่นในเกมเยือนลิเวอร์พูล และเราก็ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น พวกเขาทั้งสองคนทำหน้าที่ได้ดีมากๆ ซึ่งทุกคนต่างก็รู้สึกสบายใจกับการตัดสินใจทุกครั้ง ผมพยายามที่จะยุติธรรมและเพตเตอร์เองก็สมควรที่จะได้ลงแข่ง แต่เรารู้ว่ากูร์กตัวส์เองก็สมควรได้รับถ้วยรางวัลนี้เช่นเดียวกัน”
เขายังพูดถึงเนมันญ่า มาติช ที่พลาดการลงแข่งจากการติดโทษแบน
“เขาเสียใจนะ เราเองก็เสียใจกับเขา เขาพูดในห้องแต่งตัวและเผยถึงความเจ็บปวดของเขา และขอให้เพื่อนๆ ประสบความสำเร็จ แต่สำหรับผมแล้ว ความเจ็บปวดที่แท้จริงคือการได้เห็นแอชลีย์ บาร์น ลงแข่งไปวันก่อน และมาติชไม่ได้ลงแข่งในเกมนี้”
เขายอมรับว่ามันยากที่จะปิดข่าวชัยชนะของลิเวอร์พูลเหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ให้นักเตะรับรู้ระหว่างเกม
“วันที่สมบูรณ์แบบคือการคว้าแชมป์ ผมเตรียมภารกิจสำคัญไว้ให้พวกเขา ซึ่งนั่นคือการไม่บอกถึงผลการแข่งขันของแมนฯ ซิตี้ ผมไม่ต้องการทีวีในโรงแรมหรือบนรถบัส ผมไม่ต้องการให้มีปฏิกิริยาอะไรจากเรื่องนั้น เราทำสำเร็จนะ แต่ทีมงานของเราคนนึง ซิลวิโน่น่ะ กระโดดโลดเต้นขึ้นมาบนรถบัส ผมนี่อยากจะฆ่าเขาเลยนะ (หัวเราะ) ผมต้องการที่จะไม่ให้พวกเขาแสดงปฏิกิริยาอะไรและโฟกัสไปที่งานของเรา ซึ่งต้องพบกับเกมที่ยาก เมื่อพบกับท็อตแน่ม”
มูรินโญ่รู้สึกว่าซูม่าทำให้เชสก์ ฟาเบรกัสมีโอกาสในการดันเกมขึ้นสูงมากกว่าเดิม ซึ่งทำให้เราได้ประตูที่สอง
“มันสำคัญมากที่ฟาเบรกัสได้อิสระในการดันเกมขึ้นสูง หากเราเล่นโดยไม่มีซูม่า ผมก็จำเป็นต้องให้ฟาเบรกัส และ รามิเรส ยืนตำแหน่งอย่างรัดกุมเพื่อสร้างความมั่นคงในทีม และเขาอาจจะไม่ได้ดันขึ้นสูงแบบนี้ บางครั้งคุณอาจจะไม่มีความสุขกับตัวเองมากนัก แต่ผมมีความสุข เพราะรู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่หากผมแพ้ ผู้เชี่ยวชาญอาจจะฆ่าผมก็ได้”
“มันไม่ใช่ความรอบคอบหรืออะไร เมื่อคุณเดินหน้าตั้งแต่ในนาทีแรกเพื่อผ่านเมสันและเบ็นตาเล็บในช่วงครึ่งแรกไปให้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถปั้นเกมจากด้านหลังได้”
มูรินโญ่ยังพูดถึงผลงานของดิเอโก้ คอสต้าอีกด้วย
“เขาจำเป็นต้องมีทีม หากไม่มีทีมมันก็ยากที่จะทำอะไร เขาจำเป็นต้องเก็บธรรมชาติของเขาไว้ ทั้งในฐานะคนธรรมดาและนักเตะ เขาเล่นในรอบชิงชนะเลิศพร้อมกับแรงกระตุ้นที่สุดยอดมาก เขาไม่โดนใบเหลืองเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรที่สมควรโดนใบเหลืองเลย”
“ดิเอโก้ต้องเป็นดิเอโก้คนเดิม การรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างการเล่นในละตินกับการเล่นที่นี่ และผมคิดว่าเขาทำหน้าที่ให้เราได้ดีมาก”
Read more at http://thai.chelseafc.com/news/latest/4380#JVvbFYZ5sEO33E7R.99