ปาฏิหาริย์! แค้น ถูกฆ่า 3 วันไม่ตาย
ปาฏิหาริย์! หนุ่มนิรนามถูกฟันหัวยัดใส่ถุงตาข่าย โยนทิ้งในสวนปาล์มนาน 3 วัน ชาวบ้านพบคิดว่าตายแล้ว แจ้งตำรวจตรวจสอบ พบยังหายใจแต่อาการโคม่า
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ก.พ.58 นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอปะทิว จ.ชุมพร เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.35 น. ของวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพชายเปลือยกายล่อนจ้อนตายอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ริมถนนเข้าหมู่บ้าน ช่วงระหว่าง คลองอาบน้ำช้าง-น้ำตกทุ่งยอ หมู่ 11 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จึงประสานไปยัง พ.ต.ต.สุนทร พิทักษ์สุข พงส.สภ.ปะทิว นำกำลัง พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ปะทิว หน่วยกู้ภัยไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20 ปี สูงประมาณ 165 รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง นอนเปลือยกายล่อนจ้อนแน่นิ่ง อยู่ใต้โคนต้นปาล์ม มีบาดแผลฉกรรจ์บนหัว และใบหน้าหลายแผล มีคราบเลือดแห้งเกรอะกรังไปทั่ว เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปชันสูตรพลิกศพปรากฏว่า ชายคนดังกล่าวยังมีลมหายใจรวยรินอยู่
ในที่เกิดเหตุใกล้กับที่พบชายคนดังกล่าว พบถุงตาข่ายสีน้ำเงินมีคราบเลือดแห้งติดเปื้อนอยู่หลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคม คล้ายกับรอยแผลมีดขวานเข้าที่กลางศีรษะ หน้าผาก เป็นแผลฉกรรจ์ลึกจนกะโหลกร้าว รวม 5 แผล และที่ปาก อีก 1 แผล ฟันหัก 10 ซี่ ตามตัวมีรอยเขียวช้ำหลายแห่ง หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลปะทิว ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน แพทย์ตรวจดูบาดแผล สภาพร่างกายและคราบเลือดที่แห้งเกรอะกรังแล้วลงความเห็นว่า ผู้บาดเจ็บถูกนำมาโยนทิ้งไว้ที่โคนต้นปาล์มริมถนนดังกล่าว เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 วัน จากการสอบสวนยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นคนไทย หรือแรงงานต่างด้าว คาดว่าถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน รุมทำร้ายและฟันด้วยของมีคมจนหัวแบะหมดสติ จนคนร้ายคิดว่าตายแล้ว จึงช่วยกันจับร่างยัดใส่ถุงตาข่ายแล้วนำมาโยนทิ้งดังกล่าว แต่หลังจากนั้นคนเจ็บได้ฟื้นขึ้นมาและพยายามกระเสือกกระสนออกมาจากถุงตาข่าย เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่อาการหนักจึงหมดสติไปอีก จนเวลาผ่านไปนานถึง 3 วัน ได้มีชาวบ้านไปพบคิดว่า เป็นศพ และแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอปะทิว จ.ชุมพร กล่าวว่า สำหรับชายคนดังกล่าว อาการยังโคม่าอยู่พูดไม่ได้ ขณะนี้แพทย์โรงพยาบาลปะทิว ได้ส่งตัวไปรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หากใครสงสัยว่าเป็นญาติ หรือนายจ้าง หรือเป็นเพื่อนร่วมงานที่หายตัวไป ให้ไปสอบถามหรือดูลักษณะบุคคลได้ที่ สภ.ปะทิว หรือที่โรงพยาบาลเพื่อเป็นเบาะแสในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ที่มา ไทยรัฐ
ปาฏิหาริย์! หนุ่มนิรนามถูกฟันหัวยัดใส่ถุงตาข่าย โยนทิ้งในสวนปาล์มนาน 3 วัน ชาวบ้านพบคิดว่าตายแล้ว แจ้งตำรวจตรวจสอบ พบยังหายใจแต่อาการโคม่า
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ก.พ.58 นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอปะทิว จ.ชุมพร เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.35 น. ของวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพชายเปลือยกายล่อนจ้อนตายอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ริมถนนเข้าหมู่บ้าน ช่วงระหว่าง คลองอาบน้ำช้าง-น้ำตกทุ่งยอ หมู่ 11 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จึงประสานไปยัง พ.ต.ต.สุนทร พิทักษ์สุข พงส.สภ.ปะทิว นำกำลัง พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ปะทิว หน่วยกู้ภัยไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20 ปี สูงประมาณ 165 รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง นอนเปลือยกายล่อนจ้อนแน่นิ่ง อยู่ใต้โคนต้นปาล์ม มีบาดแผลฉกรรจ์บนหัว และใบหน้าหลายแผล มีคราบเลือดแห้งเกรอะกรังไปทั่ว เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปชันสูตรพลิกศพปรากฏว่า ชายคนดังกล่าวยังมีลมหายใจรวยรินอยู่
ในที่เกิดเหตุใกล้กับที่พบชายคนดังกล่าว พบถุงตาข่ายสีน้ำเงินมีคราบเลือดแห้งติดเปื้อนอยู่หลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคม คล้ายกับรอยแผลมีดขวานเข้าที่กลางศีรษะ หน้าผาก เป็นแผลฉกรรจ์ลึกจนกะโหลกร้าว รวม 5 แผล และที่ปาก อีก 1 แผล ฟันหัก 10 ซี่ ตามตัวมีรอยเขียวช้ำหลายแห่ง หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลปะทิว ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน แพทย์ตรวจดูบาดแผล สภาพร่างกายและคราบเลือดที่แห้งเกรอะกรังแล้วลงความเห็นว่า ผู้บาดเจ็บถูกนำมาโยนทิ้งไว้ที่โคนต้นปาล์มริมถนนดังกล่าว เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 วัน จากการสอบสวนยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นคนไทย หรือแรงงานต่างด้าว คาดว่าถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน รุมทำร้ายและฟันด้วยของมีคมจนหัวแบะหมดสติ จนคนร้ายคิดว่าตายแล้ว จึงช่วยกันจับร่างยัดใส่ถุงตาข่ายแล้วนำมาโยนทิ้งดังกล่าว แต่หลังจากนั้นคนเจ็บได้ฟื้นขึ้นมาและพยายามกระเสือกกระสนออกมาจากถุงตาข่าย เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่อาการหนักจึงหมดสติไปอีก จนเวลาผ่านไปนานถึง 3 วัน ได้มีชาวบ้านไปพบคิดว่า เป็นศพ และแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอปะทิว จ.ชุมพร กล่าวว่า สำหรับชายคนดังกล่าว อาการยังโคม่าอยู่พูดไม่ได้ ขณะนี้แพทย์โรงพยาบาลปะทิว ได้ส่งตัวไปรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หากใครสงสัยว่าเป็นญาติ หรือนายจ้าง หรือเป็นเพื่อนร่วมงานที่หายตัวไป ให้ไปสอบถามหรือดูลักษณะบุคคลได้ที่ สภ.ปะทิว หรือที่โรงพยาบาลเพื่อเป็นเบาะแสในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ที่มา ไทยรัฐ