เด็กชายเก่ง หัวใจแกร่ง ทำงานเลี้ยงดูค่าใช้จ่ายที่บ้านทั้งหมด
พ่อกับแม่ของ "ก้านกล้วย" แยกทางกันตั้งแต่ก้านกล้วยยังไม่ลืมตาดูโลก แม่คลอดก้านกล้วยแล้วทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล "ตาเทพ" ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของตาแท้ๆ รับก้านกล้วยมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่วันนั้น ความที่เป็นเด็กฉลาด เรียนเก่งและชอบช่วยเหลือผู้อื่นทำให้ก้านกล้วยเป็นที่รักของคนในละแวกห้องเช่า และที่โรงเรียน เพื่อนๆจะคอยติวหนังสือและบอกการบ้านให้เวลาที่ก้านกล้วยมาโรงเรียนสายหรือขาดเรียน เพราะต้องรับหน้าที่ ช่วยคุณตาทำบายศรี ตาเคยเป็นครูสอนการทำบายศรี และเป็นวิทยากรตามสถานศึกษา แต่มาล้มป่วยด้วยโรคเบาหวาน หัวใจ ความดันสูง หอบหืด ถุงลมโป่ง
พอง ทำให้ไม่สามารถทำงานหนักและอดนอนได้มากเหมือนกับเมื่อก่อน ก้านกล้วยจึงต้องอยู่ช่วยตาพับใบตองสำหรับประกอบบายศรีแบบต่างๆ ตามแต่ลูกค้าจะมาสั่งไว้ แม้ก้านกล้วยจะยังเรียนอยู่เพียงชั้นป.3 แต่มีฝีมือและความเชี่ยวชาญ สามารถทำชิ้นงานที่ผู้ใหญ่มองว่ายาก ให้ออกมาสวยงามและสมบูรณ์ได้อย่างน่าทึ่ง บางครั้งรับงานใหญ่เช่นบายศรีพรหมเทพ ซุ้มพญานาคหรือมังกร ต้องอดนอนหลายวันแต่ก้านกล้วยยังตั้งใจทำบายศรีจนสำเร็จทันส่งงาน
ลูกค้า ค่าจ้างทำตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน แต่งานไม่ค่อยแน่นอน ในช่วงต้นปีก่อนเทศกาลตรุษจีน ถึงจะมีงานมาก หลังจากนั้นจะเริ่มหายไป ก้านกล้วยจึงต้องหางานอื่นมาเสริม เพื่อให้มีเงินพอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 1500 บาท "น้ายุ" ซึ่งเป็นเพื่อนของตาเทพ ทำกล้วยฉาบขาย จึงมาแนะนำให้ก้านกล้วยนำไปขายที่ตลาดนัดและในหมู่บ้าน ได้กำไรถุงละ 2 บาท 1 สัปดาห์จะรับกล้วยมาขายครั้งละ 40-50 ถุง ก้านกล้วยจะขี่จักรยานไปขายในละแวกห้องเช่า