ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เผยแล้ว! คดีดัง สาเหตุการตายของสองพี่น้องแคนาดาที่เกาะพีพี ไม่ใช่อย่างที่สรุปกันแต่แรก

เผยแล้ว! คดีดัง สาเหตุการตายของสองพี่น้องแคนาดาที่เกาะพีพี ไม่ใช่อย่างที่สรุปกันแต่แรก



ใครยังจำคดีสองพี่น้องนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาเสียชีวิตที่เกาะพีพี เมื่อปี2012 ได้บ้างคะ? หลายคนยังคงค้างคากับสาเหตุการเสียชีวิต แต่ข่าวคราวที่เมืองไทยก็เงียบหายไป รู้ไหมคะว่าชาวแคนาดายังคงไม่ลืมเหตุการณ์สะเทือนใจนี้เลย เพราะ 3ปีที่ผ่านมานั้นยังคงมีการค้นหาสาเหตุการเสียชีวิต และตอนนี้เหมือนจะทราบสาเหตุที่แท้จริงแล้วว่าสองพี่น้องจากไปเพราะอะไร คุณ 4112RIN สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมได้ตั้งกระทู้  “3 ปียังไม่หยุดค้นหา ทราบแล้วสาเหตุการตายสองพี่น้องแคนาดาที่เกาะพีพี ” ขึ้นมาทำให้สาเหตุการเสียชีวิตเป็นที่สนใจอีกครั้ง
 
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี2012
 
        กรณีการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวแคนาดา 2 พี่น้อง คือ น.ส.โนเอมิ อายุ 26 ปี และ น.ส.ออเดรย์ เบเลนเจอร์ อายุ 20 ปี ที่เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังพบว่าทั้งคู่มีอาการอาเจียน และลำตัวเล็บมือเล็บเท้าเขียวคล้ำ เหตุเกิดภายในห้องพัก ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่
 
ทางคณะแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติเวช ลงพื้นที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบห้องพัก เก็บตัวอย่างต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อนำมาเป็นหลักฐานเทียบเคียงกับสารในร่างกายของศพที่จะเป็นต้นเหตุให้เสียชีวิตได้
ลิงค์ข่าว http://www.thairath.co.th/content/269515
 
 
ไม่นานแหล่งข่าวชุดสืบสวน ก็ระบุว่าทั้ง 2 สาวพี่น้องอาจมีการใช้สารบางประเภทเสพกระตุ้นจนเกินขนาดทำให้มีอาการอาเจียนและเสียชีวิต
ลิงค์ข่าว http://www.thairath.co.th/content/270054
 
 
ล่าสุดวันที่ 7 มีนาคม 2015
 
ลิงค์ข่าว http://www.bangkokpost.com
 
 
ทางเว็บไซต์ Bangkokpost  รายงานว่าสองพี่น้องชาวแคนาดาที่ถูกพบเป็นศพในห้องพักโรงแรมบนเกาะพีพีในปี 2012 อาจจะถูกฆ่าโดยฟอสฟีน ซึ่งเป็นสารเคมีร้ายแรงที่ใช้ในการฆ่าตัวเรือดหรือ bedbugs ทั้งนี้การชันสูตรศพพบรอยโรคในสมองที่เกิดจากการขาดรุนแรงของออกซิเจนซึ่งสอดคล้องกับพิษฟอสฟีน
 
ซึ่งเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของมอนทรีออล,ควิเบก เคยระบุ สารไล่แมลงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ตรงข้ามกับการชันสูตรศพของไทยซึ่งดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2012 การชันสูตรศพของไทยดำเนินการในกรุงเทพฯบอกว่าสองสาวเสียชีวิตหลังจากดื่มค๊อกเทลที่เสิร์ฟในถังพลาสติก, เครื่องดื่มที่มียาแก้ไอโคล่า  และกระท่อมยาเสพติดที่ไม่รุนแรง
 
เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของแคนาดารายงานว่า 20 นักท่องเที่ยวตะวันตกส่วนใหญ่ที่ตายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาพศพคล้ายคลึงกันทั้งหมดและฟอสฟีน เป็นสาเหตุของการตาย รวมไปถึงชาวนอร์เวย์และชาวอเมริกันที่เสียชีวิตบนเกาะพีพีในปี 2009
 
เหตุการณ์นี้ไปความคล้ายคลึงกันกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่,ซึ่งหลังเกิดเหตุโรงแรมที่ได้รื้อถอนทิ้งทันทีเพื่อทำลายหลักฐาน ดร. Roussel เชื่อว่าเป็นเพราะสารฟอสฟีน
 
ผู้ปกครองของสองสาวชาวแคนดาทั้งสอง กล่าวว่า  "เรารู้จักลูกสาวของเราดี เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้ใช้ยาเสพติด."
 
 
 
ตัวเรือด
ภาพจาก en.wikipedia.org
 
ปากของตัวเรือดมีลักษณะเป็นท่อ 2 ท่อ ไว้สำหรับเจาะแทรกเข้าไปใต้ผิวหนัง ท่อหนึ่งทำหน้าที่ปล่อยน้ำลาย ที่มีสารป้องกันเลือดแข็งตัว และสารที่ทำให้เกิดอาการชา และอีกท่อหนึ่งทำหน้าที่ดูดเลือด ข้อมูลเรื่องความสามารถของตัวเรือดในการปล่อยสารที่ทำให้เกิดการชานี้เองที่ทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมผู้ที่ถูกตัวเรือดเจาะดูดเลือดจึงไม่รู้สึกเจ็บหรือคันทันทีในตอนที่ตัวเรือดเจาะดูดเลือด แต่อาจจะไปมีอาการคันหลังจากที่สารที่ทำให้ชาหมดฤทธิ์ลงนั่นเอง
 
คนที่ถูกตัวเรือดเจาะดูดเลือดส่วนใหญ่จะไม่มีอาการผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งเลย แต่ก็จะมีคนจำนวนหนึ่งที่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ บางคนมีอาการเป็นผื่นแดง คัน เนื่องจากการแพ้
 
ข้อมูลจาก http://teen.mthai.com/variety/83168.html 
 
 
 
ฟอสฟีน Phosphine
เป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเป็นทางการในโรงแรมไทย แต่อาจจะถูกนำมาใช้อย่างผิดกฏหมายในการรมควันลักษณะทางกายภาพ แก๊ส ไม่มีสี กลิ่นฉุนคล้ายกระเทียมหรือปลาเน่า
 
แก๊สฟอสฟีน (phosphine) เป็นแก๊สที่เกิดขึ้นจากการทำปฏิกิริยาของสารอลูมิเนียมฟอสไฟด์ (aluminium phosphide) หรือสารสังกะสีฟอสไฟด์ (zinc phosphide) กับความชื้นในอากาศ โดยปกติสารทั้ง 2 ชนิดนี้จะอยู่ในรูปของแข็ง เมื่อทำปฏิกิริยากลายเป็นแก๊ส phosphine ใช้เป็นสารรมควัน (fumigant) สำหรับฆ่าหนูในยุ้งฉางเก็บข้าวหรือธัญพืชอื่นๆ สารชนิดนี้มีพิษระคายเคืองระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง อาจทำให้ผู้ที่สูดดมเข้าไปปริมาณสูงเสียชีวิตได้
 
ข้อมูลจาก http://www.summacheeva.org/index_thaitox_phosphine.htm
 
 
ที่มา http://pantip.com/topic/33343494

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลุดสาวหน้าคล้ายซิดนี่ซึ่งปากบอกไม่รับงาน AV9นิ้ว

หลุดสาวหน้าคล้ายซิดนี่ซึ่งปากบอกไม่รับงาน AV9นิ้ว  หลุดสาวหน้าคล้ายซิดนี่ ซึ่งปากบอกว่าไม่ แต่กลับเจอแบบนี้ว่อนเนต เกิด ภาพหลุด สาวสวยเต็มไปด้วยรอยสัก สาวหน้าคล้ายซิดนี่่ เปลือยผ้านอนเป็นรูปภาพที่ไม่แน่ใจว่าทำอะไรอยู่ แต่หน้าคล้ายซิดนี ทำเอาโลกโซเชียลสงสัย ว่าใช่ซิดนีตัวจริงหรือตัวปลอม หรือเป็นเพียงภาพตัดต่อ ทุกคนรอคำตอบ เรามิได้จะกล่าวหาซิดนี่แต่อย่างใดแต่ เพียงอยากรู้ว่าสาวในรูปนั้นใช่ซิดนี่จริงๆหรือเป็นเพียงการตัดต่อ      
กลับมาแล้ว! ปลุกตำนาน "อังกอร์" กับเสือสาวหน้าใหม่ จับ "โอม-อัชชา" ประกบนางเอกน้องใหม่ "บูม-สุภาพร" เรียกได้ว่าสิ้นสุดการรอคอยสำหรับสาวกคนรักเสือสาว ที่งานนี้ผู้กำกับฯมากฝีมือ "กู๊ด-เฉิดบุญ ฉลองภักดีวิจิตร" แห่ง ค่าย อาหลองจูเนียร์ ปลุกตำนาน "อังกอร์" ถือฤกษ์ดีลั่นฆ้องบวงสรวงเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี ที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ บ้านคุณฉลอง ภักดีวิจิตร โดยมีนักแสดงเข้าร่วมงานคับคั่ง นำโดย พระเอกหนุ่มมาดเข้ม "โอม-อัชชา นามปาน" ที่มารับหน้าที่เป็นป๋าดัน ส่งน้องใหม่ไฟแรง "บูม-สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง" ขึ้นแท่นนางเอกเสือสาวคนล่าสุด ร่วมด้วย ต๊ะ-วริษฐ์ ทิพโกมุท, ณมน-พัชรวลัย พงษ์ภมร, นิวส์-นริศสันต์ โลกวิทย์, เบล-สวรรยา เลียงประสิทธิ์, โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์, ตั๊ก-นภัสกร มิตรเอม, วินัย ไกรบุตร, ชาติชาย งามสรรพ์, โกวิท วัฒนกุล, เล็ก ไอศูรย์, ศิระ รัตนโภคาสถิต, จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร, จรินทร์ พรหมรังษี, ธนกฤต อยู่โต, กานตพนธ์ บุญเสริม ฯลฯ โดยบรรยากาศในพิธีบวงสรวงครั้งนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก สื่อมวลชนเข้าร่วมง...

เหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ที่จีน เมืองเทียนจิน

เหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ที่จีน เมืองเทียนจิน  ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างสุดความสามารถ หลังเกิดเหตุระเบิดสุดสยอง รุนแรงสนั่นหวั่นไหวที่เมืองเทียนจิน คร่า 44 ศพ บาดเจ็บกว่า 500 คน สื่อท้องถิ่นชี้เหตุระเบิด เกิดที่โกดังเก็บวัตถุเคมีและสารอันตราย รุนแรงเหมือนแผ่นดินไหว และเทียบเท่ากับระเบิด TNT  ถึง 24 ตัน  เมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 สำนักข่าวซินหัว กระบอกเสียงของทางการจีน รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น ดำเนินการทุกอย่างอย่างสุดความสามารถในการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน จากเหตุระเบิดรุนแรงครั้งใหญ่ ที่เมืองเทียนจิน เมืองท่าริมทะเล ทางภาคเหนือ เมื่อคืนวันพุธที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 44  ศพ และบาดเจ็บกว่า 500 คน อีกทั้งยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัด ขณะที่ สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี แจ้งว่า มีพนักงานดับเพลิงเ...