ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ช็อกสนั่น!! สาว 24 ตั้งท้อง 6 เดือนเศษ เธอเบ่งพรวดเดียวหลุด … แต่คือเรื่องเศร้าเพราะเธอไปทำแบบนี้มา !???

ช็อกสนั่น!! สาว 24 ตั้งท้อง 6 เดือนเศษ เธอเบ่งพรวดเดียวหลุด … แต่คือเรื่องเศร้าเพราะเธอไปทำแบบนี้มา !???

แทบน้ำตาไหล วันนี้ สยามดราม่า นำเรื่องอันน่าสลด ในเพจ โดนใจเธอใหม ของคนไข้รายหนึ่งซึ่งเธอท้องและได้ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำ เรื่องนี้เตือนสติใครได้หลายคน ลองมาฟังเรื่องราวของเธอกัน
นางสาวเอคนไข้หญิงสาววัย 24 ปี ตั้งท้อง 6 เดือนเศษ
มีประวัติเหน็บยาเร่งคลอดเข้าที่ปากมดลูกด้วยตนเอง (หรือสามี?) ก่อนมาโรงพยาบาลไม่กี่ชั่วโมง



ตอนมาถึง ER เธอปวดท้องจวนเจียนจะคลอดแล้ว ปากมดลูกเปิดเกือบสุด ถุงน้ำแตก
เธอเบ่งพรวดเดียวหลุดแทบไม่ต้องใช้แรง…แทบไม่มีบาดแผลที่ปากช่องคลอด แทบไม่เสียเลือด
เพราะเด็กตัวเล็กมากๆ
เด็กคนนั้นหนักแค่ครึ่งกิโล
เล็กกว่าขวดน้ำปลา
เล็กเหมือนลูกแมว
เล็กจนวางบนมือข้างเดียวได้
ซึ่งหากเกิดมาตาย…เรื่องนี้ก็จบด้วยดี
แต่ทว่า…ทารกหญิงตัวน้อยยังไม่ตาย!!!
หนู ร้องแอ๊วๆ เบาๆ สองสามทีเหมือนแมวคราง ก่อนที่จะหายใจพะงาบๆ เพราะปอดขาดสาร Surfactant ทำให้ไม่สามารถทำงานแลกเปลี่ยนก๊าซได้เต็มที่ เหมือนลูกโป่งที่เป่ายังไงก็ไม่พอง
หนูกำลังตัวเขียว ซี่โครงบุ๋มเพราะปอดที่แฟ่บไม่อาจขยายได้
(Surfactants – สารลดแรงตึงผิวของถุงลมปอด :: ทารกเกิดก่อนกำหนดที่มีภาวะหายใจลำบากแรกเกิด สาเหตุที่พบคือ ปอดยังเจริญไม่ต็มที่ จึงไม่สามารถผลิตสารลดแรงตึงผิว ซึ่งประกอบด้วย Phospholipid และ protein ที่จะเป็นต่อการทำงานของปอดปกติ สร้างโดยเซลล์เฉพาะที่อยู่บนผนังถุงลมปอด และถูกปล่อยเข้าไปในถุงลมปอด เพื่อลดแรงตึงผิวในปอดและเพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนก๊าซ)
ดญ. (ที่ไม่มีวันได้มีชื่อกับเค้า) ยังคงพยายามสูดลมหายใจด้วยกำลังทั้งหมดที่มี…แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
เหนื่อย…เหนื่อย…เหนื่อย
ฉันซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์เวรเด็ก…ถูกตามมารอรับตัวอีหนูที่แม่ไม่ต้องการ
เรา และพยาบาลช่วยกันสอดท่อช่วยหายใจ ดูดเมือกในปาก สอดสายน้ำเกลือเข้าทางสะดือ ฉีดยากระตุ้นสารขยายปอด (ซึ่งถึงฉีดไปก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่หรอก) ต่อเครื่องช่วยหายใจ และให้นอนตู้อบเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
หนูนอนหลับตา ตัวนิดเดียว มีตา หู จมูก มือเล็กๆ เท้าเล็กๆ
ไม่รู้ว่าเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่
เธอมีนิ้วที่เล็กมาก และกำแน่น
เธอเป็นมนุษย์เหมือนพวกเรานี่แหละ ไม่ใช่ก้อนเนื้อ ก้อนเลือดอะไร
ฉัน ในฐานะนักศึกษาแพทย์ปี 6 ที่ (เจือก) วิ่งวุ่นช่วยชีวิตเด็กที่สมควรตาย (มั้ง) อยู่ 3 ชั่วโมงจนคืนนั้นไม่ได้นอน
…ก็เพราะแค่อยากให้หนูได้มีชีวิตจนได้ลืมตาเห็นโลกเท่านั้น
เผื่อ ถ้าฟลุก หนูรอดตายและได้ออกจากโรงพยาบาล…แม้ว่าจะมีอันต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า ก็หวังว่าคงมีสักวันที่หนูคิดว่า “โชคดีที่ยังได้เกิดมา”
ตอนบ่ายวันรุ่งขึ้น เด็กเริ่มระดับออกซิเจนตก ตัวเขียวมาก ความดันลดต่ำลง…พี่หมอเด็กบอกว่าหมดหวังแน่ๆ
อื้อ..
ไม่หวังก็ได้
ฉันตัดสินใจเดินไปวอร์ดสูติ ซึ่งอยู่ห่างห้อง ICU เด็กทารกไปแค่ไม่กี่เมตร
หญิงชายหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังนั่งตระกองกอดกันอยู่บนเตียงแบบไม่อายสายตาคนไข้รวมอีก 20 กว่าเตียงในห้องเดียวกัน
คุณสามีหยิบผลไม้มาป้อนให้คุณภริยาด้วยท่าทีที่อ่อนโยนเหลือจะกล่าว
คุณ ภริยาสะท้านน้อยๆ ด้วยความดื่มด่ำในความห่วงใยและความรักของคนรัก เธอกุมมือสามี มองลึกเข้าไปในดวงตาของเค้า…ก่อนที่จะอ้าปากกินส้มกลีบนั้น
“คุณเอที่แท้งมาเมื่อคืนใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ”
“ลูกของคุณกำลังจะตายแล้วนะคะ”
“อ้าว ยัง…ไม่ตายเหรอ” (ประโยคหลังพึมพำเบาๆ)
“ยังค่ะ ยังไม่ตาย เมื่อคืนเธอร้องและพยายามหายใจ หมอใส่ท่อช่วยหายใจไปแล้ว แต่ปอดยังไม่แข็งแรง คิดว่าบ่ายนี้อาจจะไม่รอด …”
“ตกลงยังไงก็ไม่รอด?” ท่าทางทั้งคู่โล่งอก
“ค่ะ แล้วตกลงจะไม่ไปดูหน้าลูกหน่อยเหรอคะ” พอมองดีๆ แล้วเด็กคนนี้หน้าคล้ายแม่หน่อยๆ แฮะ
“ไม่ต้องหรอก”
“ลูกคุณนะคะ”
“หมอก็จัดการไปสิ!”
คราวนี้คู่สามีภรรยาดังกล่าวหันมาถลึงตามองฉันที่บังอาจเป็นนางมาร มารบกวนเวลาปลอบประโลมชื่นมื่น (และสมหวัง?) ของพวกเค้า
บ่ายสามโมงวันนั้น ความดันเธอเริ่มตกลงเรื่อยๆ ชีพจรเต้นรัวเร็วมากๆๆ
และในที่สุดหัวใจก็หยุดเต้น
หน้าอกยังคงกระเพื่อมเพราะเครื่องช่วยหายใจ
เราตัดสินใจถอดท่อช่วยหายใจออก
มือเล็กๆ กำอยู่หลวมๆ แขนเล็กๆ ลีบๆ วางตกอยู่ข้างลำตัว ตาสองชั้นเล็กๆ ที่ไม่มีขนตายังคงปิดอยู่เหมือนเดิม
แต่หน้าอกไม่กระเพื่อมแล้ว
2

เด็กหญิงที่ไร้ชื่อตายอย่างเดียวดาย!!!
ไม่ปรากฏญาติมาเยี่ยม
ไม่มีผู้มารับศพ
ไม่มีงานศพ
ไม่มีโลง
ไม่เผา ไม่ฝัง
แค่ถูกฉีดยากันเน่าก่อนที่จะลำเลียงไปยังห้องดับจิตของโรงพยาบาล
เด็กตัวเล็กกว่าขวดน้ำปลาที่ไม่มีคนร้องไห้ให้
ฉันก็ไม่ได้ร้องไห้ มันร้องไม่ออก
แค่ปาดน้ำตาไปทีนึง…
พวก เค้าไม่ใช่คนยากจนหาเช้ากินค่ำที่ยังไม่มีเงินเลี้ยงลูก ไม่ใช่วัยรุ่นอ่อนหัดที่ไม่รู้จักวิธีคุมกำเนิด ไม่ใช่นักเรียนใจแตกที่ท้องก่อนเรียนจบ ไม่ได้ติดเชื้อหัดเยอรมันหรือมีโครโมโซมผิดปกติที่จะทำให้เด็กพิการเมื่อ เกิดมา ไม่ได้มีโรคประจำตัวที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อแม่หากต้องตั้งครรภ์
พวก เค้าเป็นชายหญิงทำงานบริษัท เรียนจบแล้ว อายุไม่น้อย การศึกษาก็ดี (ปวส. และปริญญาตรี) พวกเค้าแต่งกายดี พูดจาภาษากลางไม่ติดสำเนียงเหน่อ มีโทรศัพท์มือถือใช้ ผิวพรรณสะอาดสะอ้านแบบคนที่ไม่ต้องทำงานหนัก ผมตัดเข้าทรงไม่รุงรัง
พวกเค้ามีเหตุผลอะไรกันนะที่สำคัญมากจนไม่สามารถเก็บเด็กคนนี้ไว้ได้
เพราะเค้ายังไม่พร้อม…งั้นเหรอ?
Cr. ศาลาแดง ซ.1 ทันตกรรม

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลุดสาวหน้าคล้ายซิดนี่ซึ่งปากบอกไม่รับงาน AV9นิ้ว

หลุดสาวหน้าคล้ายซิดนี่ซึ่งปากบอกไม่รับงาน AV9นิ้ว  หลุดสาวหน้าคล้ายซิดนี่ ซึ่งปากบอกว่าไม่ แต่กลับเจอแบบนี้ว่อนเนต เกิด ภาพหลุด สาวสวยเต็มไปด้วยรอยสัก สาวหน้าคล้ายซิดนี่่ เปลือยผ้านอนเป็นรูปภาพที่ไม่แน่ใจว่าทำอะไรอยู่ แต่หน้าคล้ายซิดนี ทำเอาโลกโซเชียลสงสัย ว่าใช่ซิดนีตัวจริงหรือตัวปลอม หรือเป็นเพียงภาพตัดต่อ ทุกคนรอคำตอบ เรามิได้จะกล่าวหาซิดนี่แต่อย่างใดแต่ เพียงอยากรู้ว่าสาวในรูปนั้นใช่ซิดนี่จริงๆหรือเป็นเพียงการตัดต่อ      

กระต่าย เอมมี่ แหวกหน้า ผ่าข้าง นำทีมแซ่บในงาน สยามดารา สตาร์ อวอร์ดส์ 2015

กระต่าย เอมมี่ แหวกหน้า ผ่าข้าง นำทีมแซ่บในงาน สยามดารา สตาร์ อวอร์ดส์ 2015               มาเต็ม !!  สยามดารา สตาร์ อวอร์ดส์ 2015  กระต่าย ทรรศิกา เอมมี่ อมลวรรณ นำทีมประชันแซ่บ แหวกอกโชว์อึ๋ม ผ่าข้างอวดเรียวขา เซ็กซี่เต็ม ๆ ตา               เรียกได้ว่ายกขบวนความแซ่บมาแบบเต็มพิกัด สำหรับดาราสาว ๆ ที่มาร่วมประชันความเซ็กซี่ กับแฟชั่นแหวก ผ่า เว้า โชว์ความขาว อวบ อึ๋ม กันแบบไม่มีใครยอมใคร ในงาน  สยามดารา สตาร์ อวอร์ดส์ 2015  ซึ่งจัดขึ้นในค่ำคืนวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ซึ่งงานนี้ กระปุกดอทคอม ก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพแจ่ม ๆ มาฝากแฟน ๆ กันเช่นเคยค่ะ !!                โดยงานนี้นำทีมความแซ่บโดยสาว  กระต่าย ทรรศิกา  ที่มาในชุดราตรีสีชมพูสดใส แหวกอกโชว์อึ๋มสะท้านใจหนุ่ม ๆ ตามมาด้วยสาว  เอมมี่ อมลวรรณ  ที่มาในชุดราตรีสีน้ำเงิน อวดอกตู้ม แถมยังผ่าลึก โชว์ขาขาวที่ยกขึ้นมาโพสท่าที ทำเอาช่างภาพหัวใจแทบวาย ในขณะที่สาว  เปิ้ล ไอริณ ...

เหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ที่จีน เมืองเทียนจิน

เหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ที่จีน เมืองเทียนจิน  ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างสุดความสามารถ หลังเกิดเหตุระเบิดสุดสยอง รุนแรงสนั่นหวั่นไหวที่เมืองเทียนจิน คร่า 44 ศพ บาดเจ็บกว่า 500 คน สื่อท้องถิ่นชี้เหตุระเบิด เกิดที่โกดังเก็บวัตถุเคมีและสารอันตราย รุนแรงเหมือนแผ่นดินไหว และเทียบเท่ากับระเบิด TNT  ถึง 24 ตัน  เมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 สำนักข่าวซินหัว กระบอกเสียงของทางการจีน รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น ดำเนินการทุกอย่างอย่างสุดความสามารถในการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน จากเหตุระเบิดรุนแรงครั้งใหญ่ ที่เมืองเทียนจิน เมืองท่าริมทะเล ทางภาคเหนือ เมื่อคืนวันพุธที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 44  ศพ และบาดเจ็บกว่า 500 คน อีกทั้งยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัด ขณะที่ สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี แจ้งว่า มีพนักงานดับเพลิงเ...