ขับรถชน ไม่รู้ว่าเอาศพกลับบ้านด้วย
ถึงกับช็อก!สาวลำปางขับกระบะชน จยย.ไม่เจอคู่กรณี หาตั้งนานไม่เจอ กลับถึงบ้านต้องผงะ มาเจอศพอยู่ใกล้ตัว
สาวเมืองรถม้าขับกระบะเสยรถจยย.ชมตูมสนั่นลงมาดูพบจยย.ไม่พบคนเจ็บ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ สุดท้ายขับรถกลับที่พักก่อนเล่าเรื่องให้ผัวฟัง ถึงกับช็อกพบคู่กรณีกลายเป็นศพติดคากระบะไปถึงบ้าน
เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 23 ก.พ. พ.ต.ท.สุวิทย์ ดีมีหาญ พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนจยย. บริเวณถนนจามเทวีลำปาง-ห้างฉัตร (สายเก่า) ใกล้บ้านหนองน้อยอ.ห้างฉัตร รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจยย.ฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขขท 57 ลำพูน พังเสียหายยับเยินล้มตะแคงข้างอยู่ แต่ไม่พบรถกระบะคู่กรณี จึงไปตรวจสอบไปยัง รพ.ห้างฉัตร และรพ.ใกล้เคียง ก็ไม่พบข้อมูลว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัว กระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น.วันเดียวกัน ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉิน รพ.ห้างฉัตร ว่า นางหทัยทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ได้ขับรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บพ 3755 ลำปาง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน กันชนหน้าหลุดเสียหาย นำผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือนายอุทัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี มาส่งที่รพ. จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่า มีบาดแผลจากการชนกระแทกทั่วร่างกาย ขาทั้งสองข้างหักผิดรูป คาดว่าน่าจะเป็นคู่กรณีในคดีอุบัติเหตุ รถกระบะพุ่งชนรถจยย.
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เมื่อไปถึงพบนางหทัยทิพย์ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ ในสภาพตัวสั่นยังไม่หายตกใจจากการสอบสวนนางหทัยทิพย์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถกระบะจากในตัวเมืองมุ่งหน้ากลับเข้าที่พักในพื้นที่บ้านทุ่งตุ่นแม่ติว ต.วอแก้ว มาถึงที่เกิดเหตุ ถูกรถจยย.คู่กรณีซึ่งขับสวนทางมาพุ่งชนอย่างจัง ด้วยความตกใจจึงรีบจอดรถลงไปตรวจสอบ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบเพียงรถจยย.ล้มอยู่ที่หน้ารถ ตนพยายามมองหาผู้บาดเจ็บ แต่หาไม่เจอ ประกอบกับจุดดังกล่าวเป็นถนนเปลี่ยวจึงรีบขับรถกลับบ้าน อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 5 กิโลเมตร เมื่อถึงบ้านรีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้สามีฟัง สามีเลยเดินตรวจสภาพรถก็ต้องตกตะลึง ส่วนตนถึงกับช็อก เมื่อพบศพผู้เสียชีวิตในกระบะหลังรถ จึงรีบนำศพส่ง รพ.ห้างฉัตร และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว ทั้งนี้นางหทัยทิพย์กล่าวยืนยันว่า ไม่เห็นคนเจ็บที่ท้ายกระบะจริง ๆ เพราะถ้าเห็นต้องรีบแจ้งตำรวจพาคนเจ็บส่ง รพ.ไปแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากความตกใจ ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมืดมาก ทำให้นางหทัยทิพย์มองไม่เห็นคนเจ็บ อีกทั้งอาจกลัวบางสิ่งบางอย่างเลยรีบขับรถกลับบ้าน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้แพทย์นิติเวช ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนติดต่อญาติผู้ตายมารับศพ และสอบสวนดำเนินคดีกับน.ส.หทัยทิพย์ต่อไป